เหตุการณ์ระทึกกลางห้างใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อคนร้ายจี้ชิงทอง ใช้ปืนขู่พนักงาน ก่อนกระชากสร้อยคอทองคำ 11 เส้น มูลค่ากว่าล้านบาท จากตู้โชว์ในร้านทอง ขับรถหนีข้ามจังหวัด
ตำรวจตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนรู้ว่าหนีไปหลบอยู่ในรีสอร์ตที่ จ.เพชรบุรี ผ่านไปเพียงข้ามคืน ตำรวจประสานกำลังเตรียมเข้าจับกุม แต่คนร้ายตัดสินใจใช้ปืนจบชีวิตตัวเอง
ความคืบหน้าจากที่มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่ชายซึ่งสวมหน้ากากอนามัย และยังปกปิดใบหน้าด้วยการสวมหมวกและแว่นกันแดด ใช้ปืนขู่พนักงานในร้านทอง แล้วกระชากสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 47 บาท มูลค่า 1,150,500 บาท สร้างความแตกตื่นให้กับคนในห้าง ที่ต่างพากันหลบทางปืนขณะที่คนร้ายหลบหนี โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13:00 น. วันที่ 5 มีนาคม 2564


พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พร้อม พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง และชุดสืบสวน ร่วมประชุมติดตามตัวคนร้าย โดยอาศัยกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนรู้ว่าขับรถกระบะมุ่งหน้าไปทางอ.โพธาราม จ.ราชบุรี และคนร้ายถอดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าและหลังออกจากรถกระบะที่ใช้หลบหนี
จนรุ่งขึ้น วันที่ 6 มีนาคม 2564 ตำรวจรู้ว่าคนร้ายไปหลบซ่อนตัวอยู่ในรีสอร์ต ที่จ.เพชรบุรี จึงเตรียมนำกำลังเข้าจับกุม แต่เชื่อว่าเมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ตัดสินใจยิงตัวตาย โดยใช้อาวุธปืน.38 กระบอกเดียวกับที่ใช้ในการจี้ชิงทอง พบร่างของคนร้ายอยู่ที่ห้องน้ำในห้องพักของรีสอร์ต
ตรวจสอบภายในกระเป๋าเป้สีดำของคนร้าย พบทองรูปพรรณ 11 เส้น อาวุธปืน.38 หนึ่งกระบอก สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม และรถกระบะที่ใช้ในการหลบหนี


