กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. , พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี ร่วมจับกุม น.ส.สุธาทิพย์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกง จาก สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี , สภ.เมืองลพบุรี และ สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์สืบเนื่องจาก 28 กันยายน 2562 ผู้ต้องหาได้ไลฟ์สด ประมูลขายทองรูปพรรณผ่านเฟซบุ๊กของผู้ต้องหา โดยมีผู้เสียหายเข้ามาประมูลทองรูปพรรณน้ำหนัก 1 สลึง ในราคา 4,550 บาท และมีการขอซื้อทองคำเพิ่มเป็นน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งทางผู้ต้องหายินยอมขายทองคำจำนวนดังกล่าวในราคา 17,500 บาท โดยได้มีการส่งภาพถ่ายบัตรประชาชนพร้อมหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาให้ทางผู้เสียหายทำการโอนเงินค่าทองคำดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินจำนวน 17,500 บาท เข้าบัญชีธนาคารให้กับผู้ต้องหาเเล้ว ผู้ต้องหากลับไม่ส่งสร้อยคอทองคำมาให้ผู้เสียหายแต่อย่างใด เมื่อพยายามติดต่อผู้ต้องหาก็ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอก
กระทั่ง 12 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบผู้ต้องหาหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่ ต.วังทอง อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณปี 2560 ตนได้เปิดเฟซบุ๊กเพื่อติดต่อซื้อขายทองคำกับผู้เสียหาย ซึ่งในช่วงปี 2562 ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น จึงทำให้เกิดปัญหา ไม่สามารถซื้อทองคำมาส่งให้ลูกค้าได้ในราคาปกติ ตนจึงรอให้ราคาทองคำปรับตัวลงก่อน และมีบางกรณีที่ตนนำเงินของผู้เสียหายรายอื่น ไปคืนให้ผู้เสียหายคนก่อนหน้าที่ซื้อขายทองคำกับตนในมูลค่าที่น้อยกว่า จึงทำให้ตนหมุนเงินไม่ทัน ไม่สามารถนำเงินไปคืนให้กับผู้เสียหายรายอื่นได้ จนกระทั่งประมาณต้นปี 2563 ตนได้เปลี่ยนบัญชีเฟซบุ๊คของตนเอง แต่ไม่ได้มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด และที่ผ่านมาตนเข้าใจว่าผู้เสียหายเพียงขู่ให้ตนคืนเงินให้เท่านั้น ไม่ทราบว่าถูกดำเนินคดี