ปอศ. รวบสาวนักต้มตุ๋นสกุลเงินดอลล่าร์ปลอม มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท

พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษกิจ (ผบก.ปอศ.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ธนิต กรปรีชา รอง ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.กริช วรทัต รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วย US Secret Service สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมตรวจสอบและจับกุมธนบัตรดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์สิงคโปร์ปลอม โดยได้จับกุมตัว นางอนัญญา อายุ 41 ปี พร้อมของกลางธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ ฉบับละ 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ปลอม  74 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยมูลค่า 17,473,680 บาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาลที่ นางอนัญญา ถืออยู่ โดยจับกุมได้ที่ร้านแลกเงินบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านสีลม

พ.ต.อ.ภาดล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. รับแจ้งว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพขนธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ปลอมจำนวนมากไปขายให้กับร้านแลกเงินบริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จึงเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนประชุมวางแผนเพื่อจับกุม ต่อมาสังเกตพบมีหญิงวัยกลางคนแต่งกายลักษณะภูมิฐานทราบชื่อภายหลังคือ นางอนัญญา เดินถือซองกระดาษสีน้ำตาล จึงตรวจสอบข้อมูลยืนยันว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นคนที่จะนำธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ปลอมจำนวนมากมาหลอกขายให้กับร้านแลกเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวและขอตรวจค้นหญิงคนดังกล่าว

จากการสอบถาม นางอนัญญาทราบว่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งหมดจะเอามาขายให้กับร้านแลกเงิน  จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบรถยนต์ของนางอนัญญา ซึ่งจอดไว้ที่อาคารจอดรถอีกแห่งหนึ่งย่านสีลม พบของกลางธนบัตรดอลลาร์สหรัฐต้องสงสัย ฉบับละ 100 ดอลลาร์ อีก 95 ฉบับ เป็นเงินไทยมูลค่า 279,537 บาท จึงได้เชิญตัว นางอนัญญา และนำธนบัตรต้องสงสัยดังกล่าวมาตรวจสอบที่ กก.5 บก.ปอศ.

ผลตรวจสอบจาก เจ้าหน้าที่หน่วย US Secret Service ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสืบสวนปกป้องระบบทางการเงินของสหรัฐอเมริกาจากอาชญากรรมทางการเงินและอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ยืนยันว่าธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์และธนบัตรดอลลาร์สหรัฐของกลางเป็นธนบัตรปลอม

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม นางอนัญญา ในฐานความผิด “มีไว้เพื่อนำออกใช้ธนบัตรรัฐบาลต่างประเทศ (ดอลลาร์สิงคโปร์ และดอลลาร์สหรัฐ) อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมหรือแปลง” จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ภาดล กล่าวว่า ธนบัตรปลอมทั้งหมด หากคนร้ายนำไปแลกกับร้านค้าหรือบุคคลอื่นที่ตกเป็นเหยื่อก็จะทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากธนบัตรปลอมดังกล่าวหากคิดเป็นเงินไทยมีมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 17 ล้านบาท ถือเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการร้านค้าธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินและธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในห้วงวิกฤติโควิดอยู่แล้ว และเชื่อว่า นางอนัญญา ผู้ถูกจับไม่ได้กระทำผิดเพียงคนเดียว เชื่อว่ายังมีผู้อยู่เบื้องหลังร่วมกันเป็นขบวนการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป