รวบยกแก๊ง ขบวนการปลอมหนังสือเดินทาง คิดค่าดำเนินการจากชาวต่างด้าวคนละ 11,000 บาท

ตม.จว.ระนอง จับกุมขบวนการปลอมหนังสือเดินทาง หลังจับชาวเมียนมา 2 คน ใช้หนังสือเดินทางปลอมเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นขยายผลจนสาวไปถึงคนทำหนังสือเดินทางปลอม คิดค่าดำเนินการหัวละ 11,000 บาท

พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 แถลงผลการจับกุมขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางและนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ระนอง ร่วมกับ จนท.ทหาร ชุด ร้อย ร.2521 (จุดตรวจศิลาสลัก จปร.) ตั้งจุดตรวจจุดสกัดกั้นพบ นายไวเมียว อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา ขับรถกระบะทะเบียนชุมพร มีนายเนคา อายุ 15 ปี และนายโจเซลา อายุ 16 ปี ทั้งคู่สัญชาติเมียนมา อยู่ในรถ

จากการตรวจสอบพบว่าหนังสือเดินทางทั้ง 2 เล่ม ที่นำมาแสดงเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงจับกุมตัวและสืบสวนขยายผล จนทราบว่าได้รับหนังสือเดินทางปลอมจาก นายอาวปาย อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา จึงได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพัก นายอาวปาย ม.4 ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี จว.ระนอง พบหนังสือเดินทางปลอมเพิ่มอีก 4 เล่ม จึงจับกุมตัวนายอายปาย ข้อหา “มีหนังสือเดินทางปลอมไว้เพื่อจำหน่าย”

ต่อมาเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านใน ม.10 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จับกุม นางเลเลข่าย อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา ข้อหา “รู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือให้คนต่างด้าวนั้นรอดพ้นการจับกุม” และได้สืบสวนขยายผล จนศาลอนุมัติหมายจับและจับกุมตัว นายสมศักดิ์ ข้อหา “ทำหนังสือเดินทางปลอม”

ขบวนการนี้มีพฤติการณ์คือ นายเนคา และ นายโจเซลา สัญชาติเมียนมา ต้องการเดินทางไปหาแม่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี หลังลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ และไปหลบซ่อนอยู่กับ นางเลเลข่าย

จากนั้น นางเลเลข่าย ติดต่อว่าจ้าง นางมะแง่หรือโชสุ นายหน้าชาวเมียนมา ให้ดำเนินการช่วยเหลือลักลอบนำพานายเนคา และนายโจเซลาเคลื่อนย้ายไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี คิดค่าจ้าง 11,000 บาทต่อคน โดยให้ถ่ายรูปส่งทางเฟซบุ๊กให้นายอาวปาว แล้ว ส่งต่อให้นายสมศักดิ์ ทำหนังสือเดินทางปลอมรวม 6 เล่ม โดยหนังสือเดินทางปลอม 2 เล่มให้นายนายเนคา และ นายโจเซลาติดตัวไว้ แต่ที่สุดก็ไม่สามารถตบตาเจ้าหน้าที่ได้

ขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางของนายอาวปาย อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา มีผู้ร่วมขบวนการเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทุกคน โดยเข้ามาอยู่อาศัยและได้รับอนุญาตให้ทำงานเป็นกรณีพิเศษ ประเภทกรรมกร การเกษตรและปศุสัตว์ ในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร นายไวเมียว ยังให้การยอมรับว่า มีใบอนุญาตให้ขับขี่รถยนต์ จึงหันมารับจ้างพาคนต่างด้าวเดินทางไปกลับ จ.ระนอง-จ.ชุมพร อยู่หลายครั้ง นอกเหนือจากการกรีดยางพารา

ที่ผ่านมาในการลักลอบนำพา ขนส่ง เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ต้องอาศัยความชำนาญเส้นทาง รู้เส้นทางรอง เส้นทางหลบเลี่ยงด่านตรวจ จุดตรวจจุดสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากเครือข่าย ขบวนการกลุ่มนี้เป็นบุคคลต่างด้าวทั้งหมด ไม่ชำนาญเส้นทางในการลักลอบนำพา จึงใช้วิธีการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง เพื่อให้แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย นำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัด

การทลายในเครือข่ายนี้ สามารถออกหมายจับผู้นำพาบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายหลบหนีเข้าเมืองจนจับกุมได้จำนวน 1 คน และแจ้งข้อกล่าวหา 1 คน อยู่ในระหว่างติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดี อีก 1 คน รวมทั้งสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติเมียนมา ได้ 6 คน

สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่
507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th