
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจพบข่าวปลอมเพิ่มเติม 1 กรณีคือ
ขอสมัครกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชัน และ Line ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยกำหนดให้ต้องชำระเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าดำเนินการก่อน และมีการส่งเอกสารที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ลูกค้า
โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ที่ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นข้อมูลเท็จ เป็นเอกสารปลอม ที่แอบอ้างหน่วยงานที่ไม่มีจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้เหยื่อหลงเชื่อ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้มีการทำธุรกรรมทางการเงิน (ฝาก ถอน โอน หรือให้สินเชื่อ ฯลฯ) โดยตรงกับประชาชนทั่วไป แต่อย่างใด
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.bot.or.th หรือโทร. 02-283-5353
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การสมัครกู้ยืมเงินผ่าน Application และ Line ที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์ธปท. เป็นเอกสารปลอม เนื่องจาก ธปท. ไม่ได้มีการทำธุรกรรมทางการเงิน (ฝาก ถอน โอน หรือให้สินเชื่อ ฯลฯ) โดยตรงกับประชาชนทั่วไป
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่านช่องทาง ได้แก่
เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com
เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER
ทวิตเตอร์ @AFNCThailand
ไลน์ @antifakenewscenter
ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87
และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ