รอง โฆษก ตร.ระบุถึง ข่าวบิดเบือน “จ.อุบลราชธานี สั่งปิดตลาดสดเทศบาล 3 หลังพบแม่ค้า 32 คนติดเชื้อโควิด-19 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ชี้แจงยอด 32 คน ไม่ใช่แม่ค้าในตลาดเทศบาล 3 อย่างเดียว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่ามีการ ตรวจพบ ข่าวบิดเบือน เพิ่มเติม 1 กรณีคือ กรณีที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง จ.อุบลราชธานี สั่งปิดตลาดสดเทศบาล3 หลังพบแม่ค้าติดเชื้อโควิด-19 กว่า 32 คน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวการปิดตลาดสดเทศบาล 3 ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่ระบุว่าจากการตรวจเบื้องต้นด้วยชุดตรวจ ATK พบแม่ค้าในตลาด และคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 32 คน ทางสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า มีคำสั่งให้ปิดตลาดจริง ในวันที่ 1-3 กันยายน 2564 เพื่อทำความสะอาด แต่จำนวนทั้ง 32 คนไม่ใช่แม่ค้าทั้งหมด เป็นแม่ค้าอาศัยในชุมชนนั้น และติดโควิดจากชุมชน 32 ราย ซึ่งเป็นผลการตรวจเชิงรุกในวันที่ 31 ส.ค. 2564 ซึ่งวันที่ 31 ส.ค. 64 จุดตรวจรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน ออกปฏิบัติงานคัดกรองเชิงรุก ณ. รร เทศบาลบรูพา อ.เมือง จ. อุบลราชธานี กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มเสี่ยงและประชาชนชุมชน รร เทศบาลบรูพา 1 และ 2 /ชุมชนวัดเลียบ 1 และ 2 /ชุมชมวัดหลวง 1 และ 2 เก็บตัวอย่าง ATK จำนวน 132 ราย พบผลลบ 101 ราย และผลบวก 32 ราย 24.24 % (แยกเป็นเก็บตัวอย่าง ณ.จุดบริการพบบวก 28 ราย และ ติดตามตรวจที่บ้าน บวก 5 ราย) ได้ประสานเทศบาลที่ร่วมปฏิบัติงานในการติดตามมาตรวจ PCR และดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคตามมาตรการที่กำหนดต่อไป ส่วนวันที่ 1 ก.ย. 64 ตรวจเพิ่มเชิงรุกฯ ณ จุดชุมชนบูรพา (ใต้สะพานเกรียง) ตรวจ ATK 228 คน บวก 10 ราย โดยยอดรวมทั้งสิ้น คือ ตรวจ ATK รวม 360 ราย พบว่าผลตรวจเป็นบวก 42 ราย

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.phoubon.in.th หรือโทร. 045243301

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : มีคำสั่งให้ปิดตลาดจริง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อทั้ง 32 คนไม่ใช่แม่ค้าทั้งหมด และเป็นข้อมูลของวันที่ 31 ส.ค. วันเดียว ซึ่งถ้ารวมยอดการตรวจหาเชื้อในวันที่ 1 ก.ย. ด้วย คือ ตรวจ ATK รวม 360 ราย และพบว่าติดเชื้อรวม 42 ราย

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป


ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่านช่องทาง ได้แก่

เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com

เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER

ทวิตเตอร์ @AFNCThailand

ไลน์ @antifakenewscenter

ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87

และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ