พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น
จากกรณีที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้จับกุมตัวคนร้าย ที่ได้ทำการล่อลวงเยาวชนจำนวนหลายราย โดยปลอมเป็นหญิงสาวสวยหน้าตาดี ใช้ช่องทางเฟซบุ๊ก ติดต่อพูดคุยกับเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน
เมื่อเหยื่อเริ่มคุ้นเคย ก็จะชักชวนพูดคุยเรื่องลามกอนาจาร และอาศัยโอกาสที่เหยื่อเป็นเยาวชนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่งภาพลามกอนาจารไป แล้วชักชวนเหยื่อถ่ายภาพโป๊เปลือย โชว์ของสงวนของลับตนเองกลับมา
จากนั้น จะบันทึกภาพลามกอนาจารของเหยื่อ แล้วนำมาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ให้จ่ายเงิน หากไม่ยอม จะเผยแพร่ภาพของเหยื่อในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เหยื่อได้รับความเสียหาย
ซึ่งการกระทำของคนร้ายเป็นความผิดหลายข้อหาด้วยกัน ดังนี้ ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1, ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1, กรรโชกทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนไปยัง บิดา มารดา และ ผู้ปกครอง ควรกำกับดูแลและสอดส่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของบุตรหลาน เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม พร้อมขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง