
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการแข่งรถในทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิระพัฒน์ ภูมิจิตรผบช.ภ.1 ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องในช่วงวันที่ 11-20 พฤศจิกายน 2564 หลังยกเลิกการห้ามออกนอกบ้านในยามวิกาล และเปิดประเทศ โดยจับกุมผู้กระทำผิด 922 ราย ยึดรถ กว่า 19,000 คัน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่าพล.ต.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย และสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เร่งปราบปรามการแข่งรถในทาง ซึ่งอาจจะกลับมารวมตัวกันสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยว และผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงประชาชนผู้พักอาศัย และอาจเป็นสาเหตุในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ช่วงหลังประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว และเปิดประเทศรับชาวต่างชาติ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการประสานข้อมูลกันระหว่าง ศปข.ตร. และตำรวจพื้นที่ทั้ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมทั้งตำรวจภูธร ภาค 1-9 ระหว่างวันที่ 11-20 พฤศจิกายน 2564 สามารถจับกุมผู้กระทำผิด ดังนี้
1.แข่งรถในทาง และ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ และสนับสนุน ให้มีการแข่งรถหรือให้ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 922 ราย
2.ทำทัณฑ์บนกับบิดา มารดา ผู้ปกครอง ตามคำสั่ง หน.คสช. ที่ 22/2558 และ 46/2558 จำนวน 2,575 ราย
3.ดำเนินคดี ร้านค้า/ดัดแปลง รถหรืออุปกรณ์ 182 ราย
4.ตรวจค้น/ประชาสัมพันธ์ ร้านขาย/ดัดแปลง รถหรืออุปกรณ์ 26,670 ราย
5.ตรวจพบท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน 3,382 ราย
6.ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.รถยนต์ ที่เกี่ยวข้อง 50,136 ราย
7.ดำเนินคดีกับ แอดมินเพจ 13 ราย
8.ตรวจยึดรถยนต์ 118 คัน
9.รถจักรยานยนต์ 19,046 คัน
10.จัดทำประวัติผู้กระทำความผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทาง 9,411 ราย
11.กรณีจับกุมผู้ต้องหาส่งฟ้องศาล และศาลมีคำสั่งให้ริบรถของกลาง 8 ราย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้กำชับให้เร่งแก้ไขปัญหาเด็กแว้น อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิตินับตั้งแต่ตนมาเป็น ผอ.ศปข.ตร. พ.ศ.2562 พบว่าการร้องเรียนลดลงอย่างมาก มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแบบครบวงจร ทั้ง ผู้ขับขี่ แอดมินเพจ ผู้สนับสนุน ร้านแต่งรถ รวมถึงผู้ปกครองด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งผลักดันแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก ในเรื่องนี้ เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเอาผิดกับ “การรวมกลุ่มมั่วสุมในทาง หรือสาธารณะสถานใกล้ทาง โดยมีพฤติการณ์ที่จะแข่งรถ” จะถือเป็นความผิด “พยายามแข่งรถ” ด้วย
ผอ.ศปข.ตร. กล่าวอีกว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แสวงหาความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์ เช่น Influencer, Youtuber ที่มีชื่อเสียง ร่วมจัดทำคลิปประชาสัมพันธ์ให้ผู้ติดตามที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนหรือกลุ่มเสี่ยง ทราบถึงข้อกฎหมาย ตระหนักถึงโทษของการกระทำผิด นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับ กองทุนเลขสวย กรมการขนส่งทางบก จัดโครงการนำเด็กและเยาวชน หรือ ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงฯ ซึ่งเก็บข้อมูลประวัติไว้ในระบบ CRIMES ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ารับการอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเป็นอาสาพัฒนาสังคม
ทั้งนี้หากพบเบาะแสการแข่งรถในทางหรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งมายัง ศปข.ตร. ที่สายด่วน 1599 หรือ 191
หรือส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีเงินรางวัล 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้
