ตำรวจเข้ม มาตรการจราจร เทศกาลปีใหม่ จัดกำลังกว่า 80,000 นาย อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย พี่น้องประชาชนเต็มที่

18 ธ.ค.64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมมาตรการรับมือและอำนวยความสะดวกด้านจราจรให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรค ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย และตั้งจุดตรวจ จุดสกัด โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้ใช้รถใช้ถนน และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศจร.ตร.) รับผิดชอบการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผอ.ศจร.ตร. ได้กำหนดนโยบายด้านการจราจรโดยมีจุดเน้นดังนี้

1. การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร  ในช่วงวันที่ 29 ธ.ค.64 – 4 ม.ค.65 ให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ตั้งแต่การจัดทำแผนที่แสดงเส้นทางสำรอง เส้นทางเลี่ยง และ เส้นทางลัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้คืนพื้นผิวจราจรให้เสร็จสิ้นภายใน 25 ธ.ค.64 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการจราจรในแต่ละเส้นทาง บริเวณทางร่วมทางแยก และหน้าสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักรถ โดยมีศูนย์ควบคุมสั่งที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีสายด่วน 1193 หรือ เพจ facebook ตำรวจทางหลวง และศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) สายด่วนหมายเลข 1197 (พื้นที่ กทม.) เพื่อให้บริการประชาชนในการสอบถามเส้นทาง รับแจ้งอุบัติเหตุ

2. ห้องพักฟรีทั่วไทย ของขวัญปีใหม่จากใจตำรวจทางหลวง มีหน่วยบริการ 201 หน่วยทั่วประเทศ มีห้องพักผ่อนฟรี สำหรับให้ประชาชนแวะพักเหนื่อย พร้อมบริการเครื่องดื่มและขนมทานเล่น ห้องน้ำสะอาดซึ่งทุกหน่วยบริการมีมาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ที่ได้มาตรฐาน โดยให้บริการจองห้องพักของหน่วยบริการตำรวจทางหลวง ผ่านระบบออนไลน์ที่ www.booking.hwpdth.com   


3. ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร 2 ฉบับ 


(1) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่อง (Reversible Lane) ขาออก กทม. 9 เส้นทาง ระหว่าง 29 ธ.ค.64 ถึง 1 ม.ค.65 และขาเข้า กทม. 16 เส้นทาง ระหว่าง 1 ถึง 4 ม.ค.65  เพื่อใช้เป็นช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถช่วงที่หนาแน่นให้คล่องตัว

(2) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในถนนบางสาย ตั้งแต่วันที่ 30 – 31 ธ.ค.64  และตั้งแต่ 2 – 4 ม.ค.65 เส้นทางห้ามวิ่ง 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 194 กม. ทั้งนี้สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถยื่นคำขอขออนุญาต ผ่านระบบออนไลน์ของ บก.ทล. ได้ที่  www.hwpdth.com โดยเริ่มเปิดระบบขออนุญาตทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.64  เป็นต้นไป

4. การบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก (10 รสขม) ดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด รวมทั้งกำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน ใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่  1) ขับรถย้อนศร  2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร  3) ขับรถจักรยานยนต์ บนทางเท้า และ 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และหากพฤติการณ์มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน  จะดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท โดยในการตรวจจับการกระทำผิด จะใช้วิธีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามมาตรฐาน (Standard Operation Procedure) รวมถึงการใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือมีสถิติการกระทำผิดบ่อยครั้ง  ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.64 เป็นต้นไป และกรณีเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจจะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการสอบสวนขยายผล ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนดื่มสุราแล้วมาขับรถ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายสุรา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และดำเนินคดีกับบุคคลที่ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอม ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือบุคคลที่ และบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเข้มงวด (การห้ามจำหน่ายสุราในเวลาห้าม และ ห้ามดื่ม-ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์  ในสถานที่กฎหมายกำหนด และห้ามขายให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี)

5. มาตรการเพื่อป้องกันก่อนเกิดเหตุ ทุกสถานีตำรวจ จัดทำฐานข้อมูลบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ ได้แก่ บัญชีบุคคลเสี่ยง (ผู้ที่มีประวัติเมาสุรา หรือมีแนวโน้มกระทำผิดข้อหาอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ) บัญชีร้านค้าเสี่ยง (ร้านที่มีประวัติการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) บัญชีกิจกรรมเสี่ยง (ข้อมูลการจัดงานหรือกิจกรรมรื่นเริงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่ต้องเฝ้าระวัง) เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการเข้าไปประชาสัมพันธ์ ป้องปรามหรือตักเตือนก่อนทำผิด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน ให้ขับขี่ปลอดภัย ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ขับรถด้วยความไม่ประมาท หากมีข้อสงสัยเรื่องการจราจร โทร.สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 และ สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชม.