
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พิชญา ทวิชศรี สว.กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 2 คน บริเวณคอนโดแห่งหนึ่ง แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร รวม 3 หมายจับ ดังนี้
- นายบุญเลี้ยง (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.46/2565 ลง 22 ม.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” และ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.47/2565 ลง 22 ม.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสาร สิทธิปลอม ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”
- นางจุไรรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.48/2565 ลง 22 ม.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”
สืบเนื่องจาก นายบุญเลี้ยงฯ และนางจุไรรัตน์ฯ สองสามีภรรยา ได้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการค้าขาย ผลิตแผ่นพลาสติกเพื่อนำไปขึ้นรูปทำผลิตภัณฑ์พลาสติก บรรจุอาหาร งานอิเล็กทรอนิกส์ และงานทั่วไป กระทั่งต่อมาเมื่อประมาณปี 2555 ผู้ต้องหามองเห็นช่องทางการทำธุรกรรมทางการเงิน จึงนำข้อมูลบริษัทของลูกค้าเก่ามาจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขาย ใบแจ้งหนี้ ใบส่งสินค้า และใบเสร็จรับเงิน มาทำสัญญาซื้อขาย กับสถาบันการเงิน โดยหลังจากที่เห็นว่าไม่มีการตรวจสอบที่ละเอียด จากสถาบันการเงิน จึงได้ดำเนินการจัดทำเอกสารดังกล่าวอีก 43 ชุด โดยใช้ชื่อบริษัทที่เคยเป็นคู่ค้าเก่าจำนวน 4 บริษัท ซึ่งสถาบันการเงินได้จ่ายเงินให้กับผู้ต้องหาไปแล้ว กว่า 15 ล้านบาท และเมื่อได้ทำการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าทั้ง 4 บริษัทในภายหลัง แต่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ เนื่องจากการซื้อขายดังกล่าวไม่มีอยู่จริง จึงทราบว่าตนได้รับความเสียหายและได้แจ้งความดำเนินคดี
ต่อมาวันที่ 5 ก.พ.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามร่วมกับตำรวจท้องที่เกิดเหตุทำการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านอ่อนนุช แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญาพระโขนง เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว พบผู้ต้องหาทั้ง 2 พักอาศัยอยู่จริง จึงจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
#มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ
#policeofficial
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ