
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมทั้ง พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ ประเทศกัมพูชา ได้ร่วมแถลง กรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดีย และสื่อโทรทัศน์ต่าง ๆ
พล.ต.อ.รอยฯ กล่าวว่า กรณีนี้ ได้ประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศกัมพูชา เข้าช่วยเหลือคนไทยที่ถูกบังคับใช้แรงงาน และสามารถพากลับมาประเทศไทยได้สำเร็จจำนวน 8 ราย หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวที่อ้างว่า ตนได้ถูกกลุ่มคนร้ายชาวจีนในเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา นำตัวไปบังคับถ่ายเลือดจำนวน 3 ถุง ทั้งยังถูกทำร้ายร่างกาย และถูกฉีดยาทำให้สลบ ก่อนได้รับการช่วยเหลือจนกลับสู่ประเทศไทยได้นั้น
กรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความทารุณโหดร้ายและสะเทือนขวัญ โดยในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว โดยประสานงานกับ พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจกัมพูชา ซึ่งรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เพื่อทำให้ข้อเท็จจริงตามกรณีดังกล่าวปรากฏ ต่อมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.ตราด หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว ศพดส.ตร. สืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวให้ปรากฏโดยเร็ว
หลังจากที่ได้ดำเนินการซักถาม และรวบรวมพยานหลักฐานประกอบคำให้การแล้ว ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้เสียหายในกรณีนี้ คือ น.ส.อารียา คมกระโทก อายุ 25 ปี รับสารภาพว่า ตนกับแฟนได้เดินทางไปทำงานที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ประมาณต้นปี 2564 โดยทำงานหลอกคนไทยให้ลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง ก่อนที่ตนจะแยกกับแฟน ย้ายไปทำงานอีกจุดหนึ่งในเมืองปอยเปต ด้วยความเป็นห่วงแฟน ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตนจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปช่วยแฟนของตนจากที่ทำงานจุดเดิม เพื่อกลับประเทศไทย หลังจากทราบว่าแฟนของตนได้รับความช่วยเหลือแล้ว ตนจึงตั้งใจที่จะกลับประเทศไทย โดยตนกลัวว่าจะไม่ได้รับการช่วยเหลือในทันที ตนจึงได้สร้างเรื่องดังกล่าวขึ้น โดยการสร้างตัวละครหญิงไทยชื่อ เนม ขึ้น พร้อมกับสร้างบัญชีเฟสบุ๊คให้ตัวละครดังกล่าว แล้วทำการแชทไปคุยกับแฟนตนเอง โดยใช้บัญชีดังกล่าวว่า หญิงไทยที่ชื่อ เนม เป็นคนไทยที่ทำงานที่ร้านอาหารไทยในเมืองพระสีหนุ และได้รับการขอความช่วยเหลือจาก น.ส.อารียาฯ อยากให้แฟนของตนช่วยประสานตำรวจให้เข้าช่วยเหลือตน ต่อมา น.ส.อารียาฯ ก็ได้สร้างเรื่องต่อว่า ตนถูกย้ายไปหลาย ๆ ที่ และถูกกลุ่มคนร้ายชาวจีนถ่ายเลือด ทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะได้หญิงไทยที่ชื่อเนมนี้เข้าช่วยเหลือ และนำตัวมาส่งที่ชายแดนปอยเปต แล้วอยากให้ตำรวจมารับตน ซึ่งแท้จริงแล้ว ระหว่างที่สร้างเรื่องนั้น น.ส.อารียาฯ ยังคงทำงานหลอกลวงคนไทยอยู่ที่เมืองปอยเปต ก่อนจะเดินทางมาที่ด่านอรัญประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือเพื่อกลับประเทศไทย การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดฐาน รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท โดยจะนำตัวไปดำเนินคดียัง สภ.อรัญประเทศ ภ.จว.สระแก้ว ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า ในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกบังคับใช้แรงงานในประเทศกัมพูชานั้น ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของกัมพูชาจนสามารถช่วยเหลือคนไทยได้กว่า 700 คน ในครั้งนี้ กลับมีคนไทยสร้างเรื่องราวที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ด้วยการประสานความร่วมมืออันดีระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของปรเทศกัมพูชา ทำให้การตรวจสอบข้อมูลและพยานหลักฐานต่าง ๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ต่อไปจะกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการการตรวจสอบข้อมูล และการคัดแยกเหยื่อให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวอีกว่า หลังจากช่วยกลับเข้ามายังประเทศไทยตำรวจได้ทำการสอบสวนปากคำทุกคนเพื่อคัดแยกเหยื่อ พบว่ามีคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 400 คน ส่วนที่เหลือมีส่วนในการกระทำความผิด จึงได้ดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมปรับเต็มอัตรา และเอาผิดตามกฎหมายแรงงาน ทั้งนี้ พบว่า 70% ไม่ได้ถูกหลอกไปทำงาน สมัครใจไปทำงานกับแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไทยด้วยกัน อย่างไรก็ตาม จะขยายผลต่ออีกว่ามีการหลอกลวงใครอีกบ้าง พร้อมประสานให้ผลักดันคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาอย่างผิดกฎหมายออกมาให้หมด
น.ส.อารียาฯ เปิดเผยว่า สาเหตุที่กุเรื่องขึ้นมา เพราะโดนข่มขู่จากแก๊งชาวจีนที่ถูกปล่อยตัวออกมา บอกจะตามล่าตัวตน ไม่ให้กลับประเทศไทยได้ จึงกุเรื่องขึ้นมา เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เพื่อให้กลับไทยได้อย่างปลอดภัย ส่วนเหตุผลที่สร้างเรื่องขึ้นมา เพราะได้ยินการเล่าต่อกันมาปากต่อปาก ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จึงยกประเด็นนี้ขึ้นมาใช้เพื่อจะขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ เพราะกลัวว่าตัวเองจะโดนชาวจีนดักกลางทาง ยืนยันว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่มีจริง ไม่มีใครอุ้ม พร้อมยอมรับว่าได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นเอง ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะกลัวจะกลับไม่ถึงประเทศไทย ซึ่งระหว่างนั้น เขาได้ตามตัวเราเพราะรู้ว่าเราเป็นคนแจ้งขอความช่วยเหลือ
พล.ต.อ.วรรณวีระฯ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจกัมพูชาให้ประสานการทำงานร่วมกันกับตำรวจไทย โดยได้ทำงานกันอย่างใกล้ชิดในการช่วยเหลือคนไทย ทั้งนี้ ช่วงวิกฤตโควิด-19 ในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีคนไทยเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาค่อนข้างเยอะ ส่วนมากเข้าไปอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากด่านพรมแดนปิด จึงไม่ทราบว่าเข้าไปอยู่ที่ไหนบ้าง แต่รู้หลังจากได้ประสานขอความช่วยเหลือ เมื่อทราบเรื่อง ก็รีบเข้าช่วยเหลือทันที สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด กับที่น.ส.อารียาฯ ได้สร้างเรื่องราวขึ้นมาเพื่อให้สาธารณชนมีความเข้าใจผิดซึ่งกระทบศักดิ์ศรีของประเทศกัมพูชาอย่างยิ่ง และกระทบยังเจ้าหน้าที่ของไทยที่อาจถูกมองว่าไม่เอาใจใส่ช่วยเหลือคนไทย เรื่องนี้ สุดท้ายได้ร่วมมือกันสืบสวนสอบสวนจนสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุกอย่างได้ หลังจากนี้ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันช่วยเหลือต่อไป
หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA : @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป
#มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ
#policeofficial
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ