พร้อมดูแลประชาชน! “รอง ผบ.ตร.” ขึ้น ฮ. ตรวจการจราจร คนเมืองกรุงเริ่มเดินทางสงกรานต์ ตำรวจเน้นอำนวยความสะดวก – ห่วงความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2565 เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานจราจร ตรวจการปฏิบัติงานของศูนย์บริหารจราจร กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โดยมี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น., พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร. และ พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. บรรยายสรุปสภาพการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 และรายงานปัญหาการจราจรทั้งในเขต กทม. และภูมิภาค นับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา

จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ ตรวจสภาพการจราจร ไปตามเส้นทางถนนพหลโยธิน จากต่างระดับบางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา ไปจนถึง จว.สระบุรี เชื่อมต่อถนนมิตรภาพ บริเวณ เนินทับกวาง เนินกลางดง เนินคลองไผ่ จว.นครราชสีมา เพื่อตรวจดูสภาพการจราจร และจุดที่เป็นปัญหารถชะลอตัว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย และสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในห้วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมกำชับให้กวดขันผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน โดยสภาพการจราจรวันที่ 8 เมษายน จนถึงวันนี้ พบว่าปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประชาชนบางส่วนพยายามหลีกเลี่ยงการจราจรช่วงวันสงกรานต์ จากข้อมูลกรมทางหลวง ในวันที่ 9 เมษายน มีรถออกจาก กทม. มากถึง 591,573 คัน และในวันนี้ 10 เมษายน คาดว่าจะมีรถออกจาก กทม. กว่า 550,000 คัน ทั้งนี้คาดว่าในวันที่ 12 เมษายน จะมีปริมาณรถออกมากสุดถึง 620,000 คัน ตัวเลขเหล่านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องนำมาคำนวณในการบริหารกำลังพล วางกำลังตำรวจให้เหมาะสมเพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รอง ผบ.ตร. เผยว่า ตำรวจจะเน้นอำนวยการจราจรบริเวณจุดที่ไม่สามารถคืนพื้นผิวการจราจรได้ทั้งหมด เช่น จุดก่อสร้างทาง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อเร่งระบายรถขาออก โดยเฉพาะ ถ.มิตรภาพ ช่วงเนินกลางดง (กม.31 – 34), เนินทับกวาง (กม.24 – 43) และ ต่างระดับสีดา (กม.238 – 241) รวมทั้ง ถ.ตาพระยา – โนนดินแดง (กม.76 – 81) ซึ่งเป็นจุดที่การจราจรชะลอตัวทุกปีเนื่องจากเป็นเนินสูง มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเปิดช่องทางพิเศษเป็นระยะ ๆ เพื่อบริหารจัดการรถให้พ้นจุดที่รถหนาแน่น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 เมษายน) ไปจนถึงวันที่ 14 เมษายน จะเริ่มเปิดช่องทางพิเศษมอเตอร์เวย์ M6 เพื่อเร่งระบายรถที่จะเดินทางไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มจาก กม.65 ถ.มิตรภาพ เบี่ยงออกซ้ายเข้า M6 ผู้ที่จะเดินทางไปชัยภูมิ จะใช้ทางออกเชื่อมต่อ ทล.201 ที่ต่างระดับสีคิ้ว ส่วนรถที่จะมุ่งหน้าไปจว.ขอนแก่น จะใช้ทางออกเชื่อมต่อ ทล.204 ที่ต่างระดับขามทะเลสอ รวมระยะทาง 64 กม. ส่วนเที่ยวกลับจะเปิดใช้ช่องทางพิเศษในวันที่ 15 – 18 เมษายน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยเร่งระบายมวลรถได้จำนวนมาก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวต่อว่า อีกสาเหตุที่ทำให้การจราจรชะลอตัวคือรถบรรทุก จึงต้องมีการจำกัดปริมาณรถบรรทุกในวันที่ 12 – 13 เมษายน และ 16 – 18 เมษายน โดยจะพิจารณาอนุญาตเฉพาะรถบรรทุกสิ่งของจำเป็นเร่งด่วน เช่น รถบรรทุกน้ำมันหรือแก๊ส รถบรรทุกอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค เป็นต้น โดยในห้วง 1 – 9 เมษายน ผู้ประกอบการยื่นคำร้องเข้ามา 24,307 คัน และอนุญาตให้ทำการวิ่งได้ 22,493 คัน สำหรับอีก 1,814 คันที่ไม่อนุญาต เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว เช่น รถบรรทุกหิน ดิน ทราย เป็นต้น

“ส่วนความกังวลเรื่องประสิทธิภาพของผู้ขับขี่รถโดยสาร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าไปประสานสถานีขนส่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) , สถานีขนส่งผู้โดยเอกมัย และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) เพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และสารเสพติดผู้ขับขี่รถโดยสาร เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งตั้งแต่ 8 เมษายน จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ขับขี่รถโดยสารมีแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดในร่างกาย”

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สงกรานต์ปีนี้ นายกรัฐมนตรี อยากให้ประชาชนเดินทางกลับอย่างปลอดภัย และเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด กำชับให้ตำรวจกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 4 – 9 เมษายน พบการกระทำผิด อาทิ เมาแล้วขับ จำนวน 874 ราย ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 148,088 ราย
ฝ่าฝืนสัญญานไฟจราจร 3,875 ราย

“มาตรการทั้งหมดที่ดำเนินการมานั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการจราจร ให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดกฎจราจรจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายบนท้องถนน ทั้งนี้หากพบอุบัติเหตุ หรือรถเสีย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บก.ทล. 1193 หรือ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 หรือ สายด่วนจราจร กองบังคับการตำรวจจราจร 1197 ตลอด 24 ชม.” รอง ผบ.ตร. กล่าว

#มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ
#policeofficial
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ