เรื่องที่เกิดขึ้นกับ “น้องหนามเตย” อายุ 20 ปี ชาว จว.เพชรบุรี เข้ามาใช้ชีวิตเพียงลำพังใน กทม. สอบติดเรียนชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินหลายรายการ หลังจากที่ใส่กระเป๋าสะพายวางไว้บริเวณชั้นล่างของหอพักนิสิต ก่อนไปทำธุระไม่นาน
น้องหนามเตย ตัดสินใจโทรศัพท์มือถือไปยังหมายเลข 191 แจ้งเหตุเรื่องราวจากนั้นไม่ถึง 5 นาที ตำรวจสายตรวจ สน.ปทุมวัน มาพบน้องหนามเตยและเพื่อน โดยใช้เวลาไม่นาน ตำรวจจับคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืนได้
ช่วงบ่ายของวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน มอบเงินรางวัลและประกาศนียบัตร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ พ.ต.ต.พงศ์วุฒิ ระดาเสริฐ สวป., ร.ต.ท.ธัญอมร หนูนารถ รอง สว.(ป.), ส.ต.ต.พงษ์พัฒน์ ศรีสุพัฒน์ และ ส.ต.ต.กสิณ อนุสาร ผบ.หมู่ (ป.) สน.ปทุมวัน
ส.ต.ต.กสิณฯ บอกว่า รับแจ้งจากศูนย์วิทยุก็รีบไปจุดที่รับแจ้งเหตุ ระหว่างทางก็โทรศัพท์มือถือไปหาน้องผู้เสียหาย ซึ่งต้องไปให้เร็วที่สุด พอไปถึงก็ทราบเรื่องราว หลังจับคนร้ายได้ จึงโทรศัพท์มือถือหาเพื่อนของน้องให้มาหาภายในโรงพยาบาล น้องผู้เสียหายมากับเพื่อนอีกคน พอน้องเห็นทรัพย์สินกอดกับเพื่อนร้องไห้พูดว่า เจอของแล้ว ผมตื้นตันใจเข้าใจความรู้สึกของน้องว่าเป็นอย่างไร ทรัพย์สินสำคัญมากน้องต้องใช้ในการเรียน อีกทั้งเป็นคนต่างจังหวัดมาเรียนใน กทม. ผมเข้าใจดีว่าเป็นอย่างไร กว่าจะเก็บเงินซื้อของ และทรัพย์สินบางอย่างคุณพ่อคุณแม่ซื้อให้มีคุณค่าทางจิตใจ
พ.ต.อ.พันษาฯ ผกก.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า การเข้าที่เกิดเหตุของตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ตำรวจทุกสถานีที่ทำโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ซักซ้อมการเข้าที่เกิดเหตุทุกกองบัญชาการเป็นประจำ ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สุ่มตรวจสอบการเข้าที่เกิดเหตุของสถานีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 ครั้ง โดยทั้ง 2 ครั้ง ตำรวจสายตรวจแต่ละสถานีมาถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว เป็นที่น่าพอใจ และยังได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้กิริยาวาจาที่สุภาพแก่ประชาชนอีกด้วย