
ระหว่างที่ ด.ต.วิชาญ สุขพิมาย และ ส.ต.ต.จักรพงษ์ พุทธเสน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองหนองคาย ปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจป้องกันอาชญากรรม ในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 มีชายคนหนึ่ง สัญชาติลาว วิ่งมาขอความช่วยเหลือ
ชายคนดังกล่าวบอกว่า ผู้หญิงผีเข้าอยู่ในรถแล้วทำร้ายตัวเอง เหตุเกิดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อ.เมือง จว.หนองคาย
ตำรวจทั้งสองนายรีบขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไปจอดข้าง ๆ รถยนต์คันหนึ่ง มองเห็นในรถยนต์บริเวณเบาะหลังมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคลุ้มคลั่ง พยายามทำร้ายตนเองมีเลือดออกจากบริเวณลำคอ โดยมีผู้ชายอีกสองคนนั่งประกบล็อกคอและจับมือผู้หญิงไว้
ด.ต.วิชาญฯ สอบถามเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ญาติ ๆ ซึ่งเป็นชาวเวียดนาม พูดภาษาไทยไม่ได้ บอกผ่านล่ามซึ่งเป็นชาวลาวว่า ให้ตำรวจช่วยพาไปหาพระสงฆ์ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้สึกตัวบอกเพียงว่า มีเด็กผู้ชาย อายุ 7 ขวบ จะเอาผู้หญิงคนนี้ไปอยู่ด้วย
ด.ต.วิชาญฯ บอกว่า ตนเอง และ ส.ต.ต.จักรพงษ์ฯ สังเกตเธอไม่ได้ถูกคนอื่นทำร้าย หรือถูกกักขัง จึงพูดบอกผ่านล่ามให้แปลบอกกับเธอว่า มองหน้าผมนะรู้ไหม ผมเป็นตำรวจไทย เธออยู่ในประเทศไทย ให้เธอหยุดแล้วค่อย ๆ คุยกันจะพาไปโรงพยาบาล แล้วส่งน้ำดื่มให้เธอดื่ม เธอก็ดื่มตามที่บอก แต่ญาติ ๆ บอกผ่านล่ามว่า เขากลัวพาไปหาพระสงฆ์รดน้ำมนต์ ก่อนพาไปโรงพยาบาลได้ไหม ผมก็บอกว่าได้ ก็ให้ล่ามชาวลาว พาไปที่วัดใกล้ ๆ แถว ๆ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย โดยญาติของผู้หญิงไปนั่งด้านหน้า ขอให้ตำรวจนั่งประกบกลัวผู้หญิงทำร้ายตัวเอง โดยมีญาติอีกคนก็ช่วยนั่งประกบอีกคน ซึ่ง ส.ต.ต.จักรพงษ์ฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามรถยนต์ พาไปหาหลวงพ่อที่วัดให้รดน้ำมนต์ให้ผู้หญิง จากนั้นก็พาไปโรงพยาบาลหนองคาย ระหว่างทางผู้หญิงเอามือมาจับแขนผม ๆ ก็ลูบแขนให้กำลังใจ เธอน่าสงสาร สายตาเธอเหม่อลอย ผมอมลูกอมแม้จะพูดภาษาเวียดนามไม่ได้ แต่ก็พยายามแสดงออกด้วยท่าทาง แล้วถามเธอ ว่าอมลูกอมไหม เธอหยิบลูกอมเข้าปาก
ด.ต.วิชาญฯ บอกอีกว่า ถึงโรงพยาบาล ผมค่อย ๆ พูดมากับผม แล้วผมพยักหน้า แสดงออกทางท่าทางค่อย ๆ จับแขนของเธอแล้วพาลงจากรถยนต์ พาไปนอนบนเตียงผู้ป่วย เธอไม่ขัดขืน ผมก็จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ญาติของเธอวิ่งมาบอกผ่านล่ามชาวลาวแปลบอกว่า ขอบคุณตำรวจไทยมาก ๆ ที่ช่วยเหลือทุกอย่างพามาโรงพยาบาล ผมก็บอกว่ามีอะไรให้ช่วยไปตามได้ที่ สภ.เมืองหนองคาย อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลได้ตลอด
ซึ่งผม และ ส.ต.ต.จักรพงษ์ฯ รู้สึกดีแม้คุยกับเธอไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังกล่อมให้เธอยอมไปโรงพยาบาล ซึ่งบอกกับล่ามว่า ผมเชื่อว่า ตราแผ่นดินที่ติดอยู่ที่หมวกมีความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เธอนิ่งหยุดสงบ ตั้งแต่แรกที่พบเธอในรถยนต์ภายในปั๊มน้ำมัน
#มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ
#policeofficial
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ