
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมมาตรการความร่วมมือแนวทางป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีวาระสำคัญที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรการความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกการจราจร เตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 นอกจากนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในชุมชน และแนวทางการป้องกันการเกิดเหตุอาชญากรรม
นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกัน จะเน้นความร่วมมือ 4 ด้าน คือ
1.Smart Safety Zone หรือพื้นที่ปลอดภัย โดยจะมีการขยายพื้นที่ปลอดภัยให้มากขึ้น โดยจะเพิ่มป้ายบอกทาง กล้องวงจรปิด เพื่อให้ครอบคลุมจุดเสี่ยงในพื้นที่ โดยปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร มีกล้องวงจรปิดกว่า 60,000 ตัว แต่จะมีการบูรณาการร่วมกับตำรวจ เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น
2.คณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด กทม.จะรับผิดชอบในเรื่องการบำบัด การดูแลผู้ป่วย และข้อมูลในชุมชน ส่วนทางตำรวจก็มีการข่าว มีการปราบปรามจับกุม จะตั้งคณะทำงานร่วมกันหาชุมชนตัวอย่างในแต่ละเขต พัฒนา และนำชุมชนตัวอย่างในการต่อต้านยาเสพติด ปรับผู้เสพให้เป็นผู้ป่วยและทำการรักษา จะมีการดำเนินการขยายผลให้ครบทุกเขต
3.คณะทำงานด้านการจราจร มี 3 ส่วน คือ 1.ด้านความปลอดภัยจราจร 2.จราจรติดขัด และ 3.การนำเทคโนโลยีมาใช้ระบบ ITMF โดยทางตำรวจและ กทม. จะช่วยกันเสนอให้รัฐบาลช่วยดูในเรื่องงบประมาณ เพื่อดูแลเรื่องการบริหารทรัพยากร กทม. ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 4.ตั้งคณะทำงานดูแลโซนนิ่งของสถานบริการ เพราะปัจจุบันกฎหมายโซนนิ่ง เป็นกฎหมายเก่า โดยจะร่วมกันศึกษาเพื่อเสนอมหาดไทยพิจารณาต่อไป
นายชัชชาติฯ กล่าวต่อว่า มีเรื่องเร่งด่วน 3 เรื่องหลักดังนี้
1.การประชุมเอเปค เนื่องจาก กทม. เป็นเจ้าของสถานที่ต้องดูการบริหารจัดการพื้นที่สวนเบญจกิติ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาใช้งาน การอบรมเจ้าหน้าที่ กทม. ในการช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสนับสนุนกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม
2.การอบรมนักเรียนเกี่ยวกับ Active Shooter ซึ่งทางตำรวจได้ทำคลิปสอนเด็กนักเรียน หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งจะขยายผลไปถึงกรณีศูนย์เด็กเล็ก และการให้ความรู้เรื่อง CPR
3.คณะทำงานปัญหาด้านการจราจรและการฝ่าฝืนการจราจรต่าง ๆ มีการเริ่มในเดือนนี้ เพื่อให้การจราจรดีขึ้น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า ตำรวจจะมีการจัดทำแผนเผชิญเหตุ ในการเตรียมการป้องกันเหตุอาชญากรรม โดยต้องขอความร่วมมือจากพนักงานเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตา ขณะที่ตำรวจจะมีส่วนช่วยสนับสนุนเกี่ยวกับการจัดทำระบบระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งจะมีการวางมาตรการร่วมกันเรื่องกล้องวงจรปิดและการเชื่อมโยงกล้องวงจรปิด ข้อสรุปการประชุมวันนี้จะทำให้การทำงานได้ดียิ่งขึ้น จะมีการจัดทำแผนในการขับเคลื่อนเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด สถานบำบัด สถานฟื้นฟู ต้องมีการเพิ่มเติมมากขึ้น ในส่วนของด้านการจราจรก็เป็นเรื่องสำคัญ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมรองรับการประชุมเอเปค เบื้องต้น อาจจะต้องมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มอีกกว่า 100 ตัว เพื่อให้ครอบคลุมในพื้นที่ โดยทุกหน่วยงาน ได้ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุย่อยครบแล้ว 6 ครั้ง เหลือซักซ้อมใหญ่ในวันที่ 6 และ 12 พฤศจิกายน อาจจะขอความร่วมมือประชาชน ซึ่งจะมีการซักซ้อม เตรียมความพร้อมขบวนเส้นทางของผู้นำที่จะมาร่วมประชุมโดยจะมีการซักซ้อมในช่วงกลางคืน ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยจะซักซ้อมเสมือนจริง ทั้งเรื่องดับเพลิงและแผนต่อต้านการก่อการร้ายที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า การติดตามด้านการข่าวกลุ่มที่อาจจะเคลื่อนไหวในการประชุมเอเปค ตำรวจมีการติดตามด้านการข่าว และขอความร่วมมือกลุ่มที่จะแสดงออก ให้คำนึงถึงประเทศชาติ ความเห็นต่างก็อาจจะต้องเก็บไว้บ้าง การเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกันของประชาชน ถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดีก็เป็นหน้าตาของประเทศไทย จึงอยากขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ช่วยกัน
เมื่อถามถึงการประชุมมีการหารือเรื่องการปราบปราบบ่อนการพนันหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มี ตั้งแต่รับตำแหน่งมาเมื่อ 1 ตุลาคม ยืนยันว่าต้องไปตรวจสอบให้ดี ยืนยันว่าไม่มี ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย
#มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ
#policeofficial
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ